รีวิว : Harley-Davidson 48 ประกอบไทย ไว้ใจได้ไหม?
Harley-Davidson (ฮาลี่ย์เดวิดสัน) มอเตอร์ไซค์แบรนด์อเมริกา ที่มีประวัติมาอย่างยาวนานกว่า 117 ปี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยสำหรับความเป็นที่นิยม และความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในแบรนด์ Harley-Davidson ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซต์ เอกลักษณ์ของท่านั่ง รวมไปถึงเสียงเครื่องยนต์ ที่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน ก็ยังคงไว้ซึ่งเสียงเฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร
Harley-Davidson Sporter Forty-Eight
Harley-Davidson รุ่น Forty-Eight หรือที่บ้านเราเรียกกันติดปากว่า 48 ใช้เครื่องยนต์ 1200cc มีเอกลักษณ์เด่นจากท่านั่งเหยียดขายื่นไปด้านหน้า ถังน้ำมันขนาดกระทัดรัด 7 ลิตร มียางหน้าและหลังขนาดใหญ่สไตล์ Bobber
หน้าปัดเรือนไมล์ มาตรวัดทรงกลมเรียบง่ายขนาดกำลังดี รองรับความเร็วในเรือนไมล์สูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แสดงสถานะระบบเบรค ABS และแถบสถานะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก สามารถเลือกให้แสดงผลระยะทาง Total, Trip, Gear and RPM
ถัดลงมาใต้เรือนไมล์ จะเป็นไฟสัญลักษณ์ต่างๆ แบ่งเป็นไฟเลี้ยวอยู่ริมนอกสุดของทั้งฝั่งซ้ายและขวา ตามด้วยไฟสูง เกียร์ว่าง และไฟสถานะเครื่องยนต์
สวิสท์ควบคุม
ในส่วนของสวิทมือซ้ายและขวา ประกอบไปด้วย
1. เมนูใช้สำหรับควบคุมหน้าจอแสดงผลบนเรือนไมล์ ใช้สำหรับกดเลือกให้แสดงผลระยะทาง Total, Trip, Gear and RPM
2. ไฟสูง
3. แตร
4. ไฟ PASS
5. ไฟเลี้ยวซ้าย กด 1 ครั้ง เมื่อเราเลี้ยวรถแล้วจะดับเอง
6. สัญญาณไฟฉุกเฉิน ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆ จะไม่มีปุ่มนี้ ต้องกดไฟเลี้ยวซายและขวาพร้อมกันแทน
7. สวิท Off-Run กดดปุ่มนี้จะตัดการทำงานของเครื่องยนต์
8. สวิทสตาร์ทเครื่องยนต์
9. สวิท Off-Run กดดปุ่มนี้จะเหมือนบิดสวิทกุญแจเพิ่อเปิดระบบก่อนกดปุ่มหมายเลข 8 เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์
10. ไฟเลี้ยวขวา กด 1 ครั้ง เมื่อเราเลี้ยวรถแล้วจะดับเองเช่นเดียวกับไฟเขี้ยวซ้าย
กุญแจ
กุญแจล็อคคอยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม และในส่วนของเลขคอ หากขึ้นต้นด้วย
MLY จะเป็นรถประกอบไทย อย่างเช่นคันที่รีวิวอยู่นี้ ทั้งนี้ การประกอบไทย คือการนำอะไหล่จาก อเมริกา มาประกอบในบ้านเรา และใช้ QC จากอเมริกาเป็นมาตรฐาน
ส่วนรถที่ประกอบอเมริกา เลขคอจะขึ้นต้นด้วย 1HD หรือ 5HD หากรถใครเป็นเลขขึ้นต้นชุดนี้ ก็มั่นใจได้ว่า Made in USA
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ 1200cc แบบ V-Twin เอกลักษณ์ของ Harley-Davidson ที่ยังใช้ DNA เดิมมากว่า 100 ปี ถูกพัฒนาและปรับปรุงตามยุคสมัย ทำให้ได้เครื่องยนต์ที่ขี่ง่าย Smooth ประหยัดน้ำมัน มาพร้อมกับท่อไอเสียคู่แยกสูบ เสียงเงียบ ได้มาตรฐานตามกฎหมายกำหนด
พักเท้าซ้ายขวาถูกออกแบบให้วางไว้ในตำแหน่งเหยียดขาไปด้านหน้า หรือที่เรียกกันว่า Forward (ฟอร์วาด) ทำให้ได้ท่านั่งที่ขับขี่สบายมากขึ้น
ระบบเบรค
เบรคหน้า-หลัง ใช้คาลิบเปอร์ 2 Port แบบลูกโต แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการจะหยุดรถที่มีน้ำหนักเกือบๆ 250KG
ระบบส่องสว่าง
ไฟหน้ายังคงใช้เป็นหลดไส้เบอร์ H4 60/55w พร้อมไฟหรี่ในตัว
ไฟเลี้ยวหน้าหลังในกรอบสีส้ม โดยไฟเลี้ยวหน้าจะใช้เป็นหลอดไส้ทังสเตนแบบเดิม เซอร์วิสง่าย ราคาหลอดถูก
ไฟเลี้ยวหลัง เป็นแบบ LED และมีไฟเบรคในตัว สว่าง ทั้งกลางวันกลางคืน
ไฟรี่ไฟเบรคสีแดง อย่างที่บอก กลางวันก็เห็นชัดใช้ได้ และยังมีไฟเลี้ยวในตัวดูล้ำสมัย
มือเบรค
มือเบรค มือครัช ขนาดใหญ่ เข้ากับตัวรถ ให้ความรู้สึกแข็งแรง แต่สำหรับคนมือเล็ก นิ้วสั้น หรือสาวๆ น่าจะใช้งานลำบากเล็กน้อย แต่พูดเลยว่า ทั้งเบรคและครัช ถึงจะดูใหญ่ ดูแข็ง แต่เวลากำเบรคหรือบีบครัชก็ทำได้ไม่ยากเย็น ไม่ได้นิ่ม หรือแข็งจนเกินไป
ฝาถังน้ำมัน
ฝาถังน้ำมันแบบโครเมี่ยมที่ให้ เป็นแบบหมุนไม่มีกุญแจล็อค แต่หากซื้อตัวประกอบ USA จะมีรูกุญแจล็อคได้
Flat Track
อีก 1 จุดเด่นของ Forty-Eight นั่นก็คือพูเล่หรือจานสายพาน เป็นรุ่นเดียวของ Harley-Davidson ที่อยู่ฝั่งขวา เนื่องจากสมัยก่อนเจ้า Sporter ถูกทำเป็นรถแข่ง Flat Track หรือการแข่งรถในสนามดินทรายรูปวงรี โดยการแข่งจะขี่วนไปทางซ้ายย้อนเข็มนาฬิกา และเมื่อถึงทางโค้งก็จะเอียงดริฟ โดยเหตุผลที่จานสายพานอยู่ซ้าย ทำให้ได้เปรียบในการเอียงรถได้มากขึ้น โดยที่จานสายพานจะไม่ขุดดินตามไปด้วย
Forty-Eight ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา จะเป็นเป็นล็อแม็คขนาด 16 นิ้ว มาพร้อมกับยางขนาด 130/90 B16 จากเดิมที่เป็นล้อแบบซี่ลวด ให้ความแข็งแรงมากขึ้น
ล้อหลัง ยังคงให้เป็นแม็ค ขนาด 16 นิ้วเช่นเดียวกันกับล้อหน้า แตกต่างที่ให้ยางหลังมาเป็นขนาด 150/80 B16
น้ำมันเครื่อง
ในส่วนของการเติมน้ำมันเครื่อง Forty-Eight ไม่เหมือนรถค่ายอื่น ที่เวลาเติมน้ำมันเครื่อง จะต้องเติมบริเวณฝาครัช แต่ Forty-Eight นั้นต่างออกไป โดยการวางนำแหน่งการเติมมาไว้ใกล้ๆเบาะนั่งฝั่งขวา และสามารถเช็คระดับหรือปริมาณน้ำมันเครื่องได้เลยจากตรงนี้
Keyless Fob
Harley-Davidson ยุคใหม่ ไม่มีแล้วกุญแจล็อคเกอร์ที่ต้องเสียบที่ตัวรถก่อนสตาร์ท ยุคนี้เป็นยุคของกุญแจแบบ Keyless Fob ซึ่ง Harley-Davidson นั้น ถือเป็นแบรนด์แรกๆของโลกที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในรถจักรยานยนต์
เบาะ
เบาะนั่งที่ให้มา หนังแท้ กว้างพอดี นิ่ม และยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ทันสมัย และการถอดเบาะก็ง่ายดายด้วยน็อตแบนเพียงตัวเดียว ในส่วนของใต้เบาะก็ไม่มีช่องเก็บของอะไร มีเพียงแค่ชุดสายไฟเท่านั้น
เบาะคนซ้อน เป็นออฟชั่นที่ต้องซื้อเพิ่ม พร้อมกับพักเท้าคนซ้อน ซึ่งหากติดตั้งเพิ่ม ก็มีค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จเพียงหมื่นนิดๆ สำหรับรถคลาสนี้ ก็ถือว่าสมเหตุสมผล
ความสว่างยามค่ำคืน
ในส่วนของไฟส่องสว่าง Harley-Davidson Forty-Eight คันนี้ทำได้ดีมากๆ ไฟส่องสว่างมากๆ ให้ทัศนะวิสัยที่ดีทั้งไฟสูงไฟต่ำในยามกลางคืน ไม่ต้อติดสปอร์ทไลท์เพิ่มเติมแต่อย่างใด
รวมไปถึงสัญญาณไฟท้ายในยามค่ำคืน Forty-Eight ทำออกมาได้ดีเช่นกัน สว่าง เด่นชัดมากๆทั้งไฟเบรค ไฟเลี้ยว รวมไปถึงไฟส่องป้ายทะเบียน ถึงแม้จะเป็นหลอดไส้ แต่ก็สว่างไม่แพ้กัน
สรุป
สำหรับมือใหม่ อาจต้องปรับตัวและทำความคุ้นชินสักเล็กน้อยในการขับขี่ใช้งานเจ้า Forty-Eight คันนี้ เนื่องจากท่านั่งที่จำเป็นต้องยืดแขนเล็กน้อย ลักษณะการกำมือครัช มือเบรค ต่างไปจากรถญี่ปุ่นหรือค่ายอื่นๆ ในเรื่องของขนาดก้านเบรคก้านครัช แต่เมื่อปรับตัวได้ ท่านั่ง กล้ามเนื้อต่างๆในร่างกาย จดจำท่าขับขี่จนเกิดความเคยชินแล้ว บอกได้เลยว่า Forty-Eight เป็นรถที่ขี่ง่ายมากๆ รวมไปถึงงานประกอบ ที่หลายๆคนอาจจะกังวลว่า ประกอบไทยจะดีมั้ย ผมตอบเลยตรงนี้ว่า ฝีมือแรงงานบ้านเรา ประกอบได้เนี้ยบกว่า ละเอียดและเรียบร้อยกว่าฝรั่งมากๆ สายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อย ผมกล้าพูดตรงนี้เลยว่า นอกจากตัวรถจะไม่ต่างกันแล้ว รายละเอียดการเก็บงาน เราดีกว่าอเมริกาแน่นอนครับ
สำหรับใครที่สนใจ Harley-Davidson รุ่น Forty-Eight นี้อยู่ สนนราคาเริ่มต้นที่ 636,500 บาท หรือกำลังสนใจในรุ่นอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
AAS HARLEY-DAVIDSON OF BANGKOK
Tel : 02 521 4545
บิดหมดถัง
ขอบคุณ : AAS HARLEY-DAVIDSON OF BANGKOK เอื้อเฟื้อรถจักรยานยนต์ Harley-Davidson รุ่น Forty-Eight คันนี้ให้เราได้รีวิวกันครับ